ทุกครั้งที่ Titleist พูดถึงเรื่องอุปกรณ์ คุณจะได้ยินเราพูดเสมอเกี่ยวกับความสำคัญของการทำฟิตติ้ง และสิ่งสำคัญที่คุณจะได้รับหลังจากทำฟิตติ้ง คือ การมีอุปกรณ์ที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุด สำหรับเกมของคุณ ซึ่งช่วยให้นักกอล์ฟใช้อุปกรณ์ได้เต็มประสิทธิภาพ และเล่นได้เต็มศักยภาพ รวมถึงได้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับเกมการเล่นของนักกอล์ฟแต่ละคน
ในขณะนี้ เราเห็นเทรนด์ที่น่าสนใจ ในการฟิตติ้งให้ผู้เล่นในทัวร์ คือ การใช้ชุดเหล็กแบบผสม
ตามข้อมูลที่เราได้รับจากผู้ดูแลนักกอล์ฟในทัวร์ของ Titleist, J.J. Van Wezenbeeck บอกเราว่า ประมาณ 75% ของนักกอล์ฟที่ลงแข่งขันใน PGA TOUR ในปัจจุบัน ใช้ชุดเหล็กแบบผสม
"มันเริ่มต้นจากความต้องการ ในการตีให้ได้ระยะห่างระหว่างเหล็กแต่ละเบอร์ที่ดียิ่งขึ้น" J.J. กล่าว "ผู้เล่นส่วนใหญ่แข็งแรงขึ้น ตีไดรเวอร์ และหัวไม้แฟร์เวย์ได้ไกลขึ้น ในขณะที่ ช็อตทำคะแนนที่ตีด้วยเหล็ก หรือเว็ดจ์ ยังอยู่ในระยะเดิม ทำให้ระยะห่างในการตีหัวไม้ และเหล็ก กว้างมากขึ้น"
นOne player who has seen the benefits of playing a faster, more forgiving long iron is โปรของ Titleist, Patton Kizzire, เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่เห็นประโยชน์ ในการใช้เหล็กยาวที่ชดเชยความผิดพลาดมากกว่า และสร้างความเร็วได้สูงขึ้น เขานำเหล็ก 4 ของ 718 T-MB มาใช่้ และคว้าแชมป์ PGA TOUR ได้สองรายการในปีนี้ ที่ OHL Classic at Mayakoba และ Sony Open ใน Hawaii
นอกจาก เหล็ก 4, 718 T-MB, Kizzire เปลี่ยนมาใช้ 718 CBs ในเหล็ก 5 และ 6 เหล็ก CB ให้วิถีลูกที่ทรงพลัง และชดเชยความผิดพลาดสูงขึ้น ทำให้ Patton สามารถควบคุมลูกได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่ เหล็ก 7, 8 และ 9 เขาใช้ 718 MB ที่เป็นเหล็กเบลดแบบดั้งเดิม ซึ่งให้ความรู้สึก และประสิทธิภาพในการควบคุมทิศทาง ในแบบที่เขาต้องการ ในช็อตทำคะแนนที่ตีด้วยเหล็ก
"ตัวเลือกที่มากกว่าของชุดเหล็ก 718 ช่วยนักกอล์ฟได้จริง” J.J. กล่าว “คุณอาจมีความต้องการที่แตกต่างในการเล่นเหล็กยาว เหล็กกลาง และเหล็กสั้น แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุด จากชุดเหล็ก 718 ทั้งหกรุ่นที่เราวางตลาด Patton ชอบรูปทรง และความรู้สึกของ 718 MB มาก เขาถึงเลือกใช้ในเหล็กสั้น และการผสมใบเหล็กรุ่นอื่นลงไปในเหล็กกลาง และเหล็กยาว ช่วยให้เขาตีได้ระยะห่างระหว่างเหล็ก และวิถีลูกที่ดีขึ้น ในการเล่นช็อตที่ยาวขึ้น"
• • •
ไม่ใช่เฉพาะนักกอล์ฟในทัวร์เท่านั้น
เราต้องการทราบว่า แนวโน้มการใช้ชุดเหล็กแบบผสม สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่น เป็นอย่างไร เราจึ้งเข้าไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตติ้ง ที่ศูนย์ฟิตติ้งTitleist Performance Institute.
"เราแนะนำ ชุดเหล็กแบบผสม ให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่นจำนวนมาก มานานมากแล้ว" Glenn Mahler, fitting supervisor ที่ศูนย์ฟิตติ้ง Titleist Performance Institute กล่าว "นักกอล์ฟจำนวนมาก สามารถเล่นช็อตได้ดีขึ้น ในเหล็กกลาง และเหล็กยาว เมื่อเปลี่ยนมาใช้เหล็กที่ชดเชยความผิดพลาด และสร้างความเร็วได้สูงกว่า ในเหล็กกลาง และเหล็กยาว เราพบว่านักกอล์ฟตีได้ระยะหว่างระหว่างเบอร์เหล็กที่เหมาะสมยิ่งขึ้น"
"ตัวอย่าง เช่น นักกอล์ฟมาพบเรา แล้วบอกว่า เหล็ก 5 ของเขา ตีได้ระยะได้เท่ากับเหล็ก 4 ระยะห่างที่เหมาะสม สำหรับเหล็กสองเบอร์นี้ คือ 8-16 หลา และเมื่อเราวัดผลจากการตีด้วยเครื่อง launch monitor เราพบว่าเขาตีเหล็กสองเบอร์นี้ห่างกันแค่ 2-3 หลา"
แล้ว องศาที่ต่ำลง ในเหล็กที่ยาวขึ้น ไม่ได้ ช่วยให้ตีได้ไกลขึ้น โดยอัตโนมัติ หรือ?
"แม้ว่าองศาหน้าไม้จะแตกต่างกัน แต่ถ้าคุณตีลูกกอล์ฟออกจากเหล็กที่ความเร็วเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นเหล็กคนละเบอร์ โดยทั่วไปแล้ว คุณจะตีได้ระยะที่ใกล้เคียงกัน” Lucas Bro, ผู้วิเคราะห์ด้านการทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ กล่าว “นั่นเป็นสาเหตุว่า สำหรับเหล็ก เราฟิตติ้ง เพื่อหาความเร็วที่นักกอล์ฟตีได้ ไม่ใช่องศาหน้าไม้ เราต้องการเห็น ความเร็วลูกกอล์ฟที่แตกต่างกัน 5-7 mph ระหว่างเหล็กแต่ละเบอร์ ซึ่งจะมีผลให้นักกอล์ฟตีได้ระยะห่างระหว่างเบอร์ 8-16 หลา เมื่อเราทำฟิตติ้ง และเห็นความเร็วที่ลดลง เรารู้เลย ว่านักกอล์ฟต้องใช้ใบเหล็กรุ่นอื่น สำหรับเหล็กกลาง หรือเหล็กยาว"
นอกจากนี้ การตีลูกให้ตกแล้วหยุดบนกรีน มีความสำคัญมากสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่น ไม่ต่างอะไรกันกับผู้เล่นในทัวร์ Glenn กล่าวเสริมว่า วิถีลูกที่ตกลงกรีน เมื่อตีด้วยเหล็ก เป็นหนึ่งในข้อมูลที่เราให้ความสำคัญในการฟิตติ้งชุดเหล็ก Titleist
"แม้ว่าองศาหน้าไม้ ในเหล็กยาว จะลดลง แต่เราต้องการรักษามุมที่ลูกตกลงบนกรีน ให้คงที่ แบบเดียวกันกับที่นักกอล์ฟตีด้วยเหล็ก 7 ถ้ามุมที่ลูกตกลงกรีน อยู่ที่ 45 องศา เมื่อตีด้วยเหล็ก 7 เราต้องการให้นักกอล์ฟที่ลูกตกลงบนกรีนด้วยองศาเดียวกันนี้ เมื่อตีด้วยเหล็ก 6, 5 และ 4 หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจได้ง่าย คือ เราต้องการให้นักกอล์ฟตีลูกหยุดบนกรีนด้วยเหล็ก 5 แบบเดียวกันกับที่เขาตีด้วยเหล็ก 7 การเปลี่ยนเหล็กกลาง และเหล็กยาว มาใช้เหล็กรุ่นที่มีรูปทรงใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มความเร็ว รวมถึงทำให้มุมที่ลูกตกลงบนกรีน เหมาะสม"
• • •
ตัวเลือกที่หลากหลาย
ชุดเหล็กแบบผสมแบบใด ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตติ้งของเราแนะนำ? โดยทั่วไป ชุดเหล็กแบบผสม ที่นักกอล์ฟในทัวร์นิยมใช้ คือ 718 CB และ 718 MB แต่เราเห็นนักกอล์ฟในทัวร์ใช้ T-MB และ AP3 รุ่นใหม่ ในเหล็กยาว เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละสัปดาห์
สำหรับข้อมูลที่เราได้รับ จากนักกอล์ฟทั่วไป ที่มาฟิตติ้งที่ศูนย์ฟิตติ้ง Titleist Performance Institute และในกิจกรรมฟิตติ้ง Titleist ที่เราจัดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ชุดแบบผสมที่ได้รับความนิยม และเหมาะกับนักกอล์ฟจำนวนมาก มีดังนี้:
- 718 AP2 เหล็ก 5-PW & 718 T-MB หรือ 718 AP3 เหล็ก 4
- 718 AP1 6-PW & 818H1 27°/23°
- 718 MB/CB เหล็ก 5-PW & 718 T-MB เหล็ก 3 & 4
แต่วิธีการเดียวที่จะทราบว่า ชุดเหล็กแบบทั่วไป หรือชุดเหล็กแบบผสมแบบใดที่เหมาะสมกับเกมของคุณมากที่สุด คือ การทำฟิตติ้งกับ Titleist
Glenn กล่าวว่า "เราใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟิตติ้ง และเครื่อง launch monitor ในการเก็บข้อมูลลูกกอล์ฟอย่างแม่นยำ เพื่อให้เราแน่ใจว่า เหล็กรุ่นใดบ้างที่ควรจะมีอยู่ในชุดของคุณ และสามารถช่วยเกมการเล่นของคุณได้มากที่สุด คุณควรทดสอบเหล็กทุกรุ่น และดูความแตกต่างในด้านประสิทธิภาพด้วยตัวคุณเอง เราพบข้อมูลที่ทำให้ประหลาดใจเสมอ ในการจัดชุดเหล็กแบบผสมแบบต่างๆให้กับนักกอล์ฟแต่ละคน"
• • •
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟของ Titleist คลิกที่นี่ หากท่านสนใจทำฟิตติ้ง ที่ศูนย์ฟิตติ้ง Titleist National Fitting Centre ในประเทศไทย สามารถจองเวลาได้โดย คลิก https://www.titleist.in.th/thailand-club-fitting หรือโทร 062-565-6912 ไลน์ไอดี @titleistthailand
#TeamTitleistThailand